โคเอ็นไซม์คิวเทน(CoQ10) คืออะไร

โคเอ็นไซม์ คิวเท็น หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ubiquinone เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน หรือเป็นสารคล้ายวิตามินซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพ โคเอ็นไซม์ คิวเท็น จะพบได้ในอาหารหลากหลายประเภท อาทิ เนื้อสัตว์ต่างๆ เนื้อวัว น้ำมันถั่วเหลือง ปลาซาร์ดีน ปลาแม็คเคอเรล และถั่วลิสง ร่างกายมีความสามารถในการสร้างโคเอ็นไซม์ คิวเท็น จากกรดอะมิโนที่มีชื่อว่า tyrosine แต่กระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ซึ่งจะต้องมีวิตามินอย่างน้อย 8 ชนิด และแร่ธาตุที่หลากหลาย เพื่อสานต่อกระบวนการทำงานให้สมบูรณ์ ดังนั้นหากขาดสารอาหารใดไป ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการสร้างโคเอ็นไซม์ คิวเท็น ให้กับร่างกาย

โคเอ็นไซม์ คิวเท็น

เมื่อเราอายุมากขึ้น ระดับของโคเอ็นไซม์ คิวเท็น ก็ต่ำลง ซึ่งทำให้ mitochondria ของเซลล์ (เตาหลอมภายในเซลล์) สามารถถูกทำลายด้วยปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น โคเอ็นไซม์ คิวเท็น มีความสำคัญต่อหน้าที่ระบบภูมิคุ้มกัน เนื่องจากหน้าที่หลักของมันในการผลิตพลังงานภายในเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกัน การเพิ่มโคเอ็นไซม์ คิวเท็น ให้กับร่างกายจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นด้วย

โคเอ็นไซม์ คิวเท็น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดต่อการสร้างพลังงานภายในเซลล์ การศึกษากับผู้ป่วยหลายรายพบว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่นในเตาหลอมภายในเซลล์เป็นสาเหตุสำคัญจากการลุกลามของโรคความเสื่อมของประสาท

หากมองโคเอ็นไซม์ในภาพรวม พวกมันคือปัจจัยร่วมอย่างหนึ่งที่จำเป็นต่อการทำปฏิกิริยาเอ็นไซม์ประเภทต่างๆ ในร่างกาย โคเอ็นไซม์ คิวเท็น ก็เป็นปัจจัยร่วมอีกตัวหนึ่งที่เอ็นไซม์อย่างน้อย 3 ชนิดหลัก ใช้ภายใน mitrochondria ซึ่งเป็นหน่วยเล็กๆ ใน cytoplasm ของเซลล์ อย่าลืมนะครับว่า mitrochondria เปรียบได้กับพลังงานทางไฟฟ้าที่จำเป็น หรือเตาหลอมของเซลล์ซึ่งเป็นที่สร้างพลังงาน เอ็นไซม์จาก mitrochondria ต้องใช้ในการผลิตฟอสเฟสพลังงานสูง และไตรฟอสเฟส adenosine ซึ่งหน้าที่ต่างๆ ในระดับหน่วยเซลล์ต้องพึ่งมัน

คุณอาจจำได้ว่า mitrochondria เป็นพื้นที่ซึ่งกระบวนการอ๊อกซิเดชั่นเกิดขึ้น มิได้มีเพียแค่พลังงานเท่านั้นที่เกิดขึ้นจากจุดๆ นี้ แต่ยังมีผลพวงซึ่งสร้างผลิตผลอย่างเช่น อนุมูลอิสระเกิดขึ้นมาอีกด้วย ในฐานะที่เป็นตัวต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง โคเอ็นไซม์คิวเท็น จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะทำให้อนุมูลอิสระมีฤทธิ์เป็นกลาง อย่างไรก็ดี หน้าที่สำคัญที่สุดของมันในสถานการณ์เช่นนี้ก็คือ การช่วยสร้างพลังงานนั่นเอง

โคเอ็นไซม์คิวเท็น ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเป็นเชื้อเพลิงให้กับ mitochondria ของมนุษย์นั้น ได้ถูกค้นพบที่หัวใจของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประเภทวัว ควาย

ภาวะความขาดแคลนโคเอ็นไซม์ คิวเท็นและการล้มเหลวของหัวใจ

นอกจากจะมีนักวิชากานมากมายได้วิเคราห์หาระดับโคเอ็นไซม์ คิวเท็น ในเลือดที่เหมาะสมแล้ว พวกเขายังได้ระบุว่าโคเอ็นไซม์ คิวเท็นนั้น มีความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างความรุนแรงของการล้มเหลวของหัวใจและความสัมพันธ์ของกาลดลงของโคเอ็นไซม์ คิวเท็น การลดลงของปริมาณโคเอ็นไซม์ คิวเท็น ที่สำคัญจะพบได้กับโรคเกี่ยวกับเยื่อหุ้มฟัน มะเร็ง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน ระดับของโคเอ็นไซม์ คิวเท็น ที่ไม่เพียงพอเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยนั้นเป็นโรคหัวใจล้มเหลวแบบ congrestive และโรคกล้ามเนื้อหัวใจ

การขาดสารโคเอ็นไซม์ คิวเท็น สามารถเป็นผลจากหลายเงื่อนไข เช่น การขาดสารอาหาร ความไม่สมบูรณ์ของร่างกายในการสังเคราะห์โคเอ็นไซม์ คิวเท็น และ/หรือ การใช้โคเอ็นไซม์ คิวเท็นของร่างกายที่มากจนเกินไป

ในช่วงต้นปี ค.ศ.1980 นกวิจัยได้เริ่มต้นให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารเสริมที่มีโคเอ็นไซม์ คิวเท็น เป็นส่วนประกอบ กว่า 20 ปีที่ผ่านมา การให้ความสนใจในประเด็นนี้ได้ก่อนกำเนิดการศึกษาเรื่องนี้กับผู้ป่วยอีกหลายครั้ง ด้วยการทดสอบผลของโคเอ็นไซม์ คิวเท็น ที่มีต่อกล้ามเนื้อหัวใจและภาวะหัวใจล้มเหลวแบบ congestive ของผู้ป่วย มีการทดลองแบบ placebo ไม่น้อยกว่า 9 ครั้งทั่วโลก มีการประชุมระดับนานาชาติถึง 8 ครั้ง ในมุมมองของชีวแพทย์ศาสตร์และลักษณะของโคเอ็นไซม์ คิวเท็น การประชุมครั้งนั้นมีทั้งแพทย์และนักวิทยาศาสตร์จาก 18 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมประชุมและแสดงงานวิจัยกว่า 300 ชิ้น

การศึกษาในระดับสากลที่ใหญ่ที่สุดขนาดนี้อยู่ที่ศูนย์ทดลองอิตาเลียนมัลติเซ็นเตอร์ ก่อตั้งโดย Baggio และสมาคม ซึ่งได้ทำการทดลองกับคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลว 2,664 คน การศึกษาเฉพาะที่จัดขึ้นในครั้งนี้กว่า 80% ของคนไข้มีอาการที่ดีขึ้นหลังจากบริโภคโคเอ็นไซม์ คิวเท็น และมี 54% ของผู้ป่วยที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นจาก 3 อาการหลักที่เป็นอยู่ พูดอย่างง่ายๆ คือ การศึกษาทั้งหมดและตัวอย่างจากชีวิตจริง แสดงให้เห็นว่า สารโคเอ็นไซม์ คิวเท็น เป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ แม้ว่ามันอาจไม่ได้รักษาพวกเขาให้หายขาด แต่มันสามารถช่วยสกัดกั้นไม่ให้กระบวนการของโรคเกิดขึ้นเลวร้ายลงไปกว่าเดิม

จากการทดสอบที่รายงานอยู่ในวารสารทางการแพทย์ ดร.โฟล์คเกอร์ และ ดร.แลงส์โจอัน ได้แสดงให้เห็นถึงข้อพิสูจน์ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ของประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่เกิดขึ้นจากการใช้โคเอ็นไซม์ คิวเท็น กับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้าย ซึ่งกำลังรอคิวการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ

นี่คือตัวอย่างที่สำคัญของวิตามินหรือสารต้านอนุมูลอิสระทางธรรมชาติที่ได้แสดงให้เห็นในการทดลองกับผู้ป่วยว่ามันมีประสิทธิภาพจริงและปลอดภัย ดังนั้นสารอาหารนี้คือสารอาหารบำบัดโรคที่เป็นแก่นแท้ เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจเกิดภาวะความอ่อนแอ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม นั่นหมายความว่ามันต้องการสารอาหารบำรุงเซลล์หัวใจเพื่อผลิตพลังงาน การใช้สารอาหารเหล่านี้จนมากเกินไปนั้น สุดท้ายกล้ามเนื้อหัวใจจะสูญเสียโคเอ็นไซม์ คิวเท็น ซึ่งเป็นสารอหารที่สำคัญที่สุดในการสร้างพลังงาน เมื่อผู้ป่วยได้รับสารอาหารนี้เป็นอาหารเสริม กล้ามเนื้อหัวใจที่อ่อนแอจะสามารถกลับมาทำงานได้ดีขึ้น สามารถสร้างพลังงานได้มากขึ้น และสามารถชดเชยส่วนที่อ่อนแอไป

แพทย์ควรใช้โคเอ็นไซม์ คิวเท็น ควบคู่ไปกับการรักษาทางการแพทย์แบบเดิม ไม่ได้หมายความว่าให้เอามาใช้แทนกัน การักษาด้วยวิธีนี้เป็นวิธีการรักษาเสริม ไม่ใช่การรักษาแบบทางเลือก แม้ว่าในการศึกษาจะมีผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นมากและสามารถหยุดการรักษาแบบเดิมได้แล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาหายจากการป่วยเป็นโรคหัวใจ

** เครดิตจากหนังสือ เมื่อคุณหมอไม่รู้จักอาหารเสริม บำบัดโรค

ประโยชน์ของโคเอนไซม์คิวเทน

  • โคเอนไซม์คิวเทนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในทุกเซลล์ของสิ่งมีชีวิต
  • มีความสำคัญอย่างมากต่อการสร้างพลังงาน
  • มีความสำคัญอย่างมากต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เพราะถ้าหากร่างกายขาด Coenzyme Q10 เซลล์ในร่างจะหยุดทำงานทันที !
  • มีบทบาทสำคัญในการช่วยลดริ้วรอยและชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง
  • Coenzyme Q10 มีคุณสมบัติคล้ายกับวิตามินอี ช่วยเสริมการทำงานของหัวใจ เพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยรักษาโรคเหงือก ชะลอความผิดปกติและการดำเนินของโรคพาร์กินสันได้
  • สำหรับผู้สูงอายุหลาย ๆ คนแล้วการรับประทานโคคิว 10 จะทำให้ร่างกายรู้สึกเหมือนมีพลังขึ้นมาทันที
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เพราะโคคิว 10 จะไปช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอกได้ดีกว่ายาแผนปัจจุบัน
  • มีการนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งและหัวใจ

สนใจสั่งซื้อสินค้าได้ที่:
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่:

บทความแนะนำ

รู้จักแคลเซียมจากสาหร่ายทะเล

แคลเซียมจากสาหร่ายทะเล เป็นแหล่งแคลเซียมที่ปลอดภัย มาจากพืช 100% ย่อยง่าย ท้องไม่ผูก

Collagen Tripeptide (คอลลาเจน)

คอลลาเจนมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งกับผิวและไขข้อ หากร่างกายสูญเสียคอลลาเจนนอกจากจะทำให้ดูอา

ความต่างของคลอโรฟิลล์ธรรมชาติและคลอโรฟิลล์สังเคราะห์

คลอโรฟิลล์ มีประโยชน์มากมาย แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือคลอโรฟิลล์ ชนิดสังเคราะห์หลายประเท

แครอทมีเบต้าแคโรทีน ช่วยดูแลดวงตา

ผักสีส้มอาหารโปรดของหลายคน ทั้งผัด ทั้งสลัด คุณค่าจากธรรมชาติช่วยดูแลดวงตา

บทความที่น่าสนใจ

📗 รู้จักแคลเซียมจากสาหร่ายทะเล

📗 Collagen Tripeptide (คอลลาเจน)

📗 ความต่างของคลอโรฟิลล์ธรรมชาติและคลอโรฟิลล์สังเคราะห์

📗 แครอทมีเบต้าแคโรทีน ช่วยดูแลดวงตา

📗 Wheatgrass (วีทกราส)

📗 พรีไบโอติก คืออาหารของเชื้อจุลินทรีย์ดีในลำไส้

📗 หน้าที่การทำงานของตับ (Liver)

📗 รู้จักโคเอ็นไซม์คิวเท็น (Q10)