คลอโรฟิลล์คืออะไร?

คลอโรฟิลล์คือรงควัตถุสีเขียว เป็นส่วนประกอบสำคัญของพืช ทำหน้าที่ในการสังเคราะห์แสง เปลี่ยนกาซคาร์บอนได้ออกไซด์ เป็นกาซออกซิเจน และน้ำตาลกลูโคส คลอโรฟิลล์จึงสำคัญมากต่อระบบนิเวศน์วิทยา

โครงสร้างของคลอโรฟิลล์

คลอโรฟิลล์มีลักษณะโครงสร้างเหมือนกับโมเลกุลของเม็ดเลือด(ฮีม) และวิตามิน B12

ลักษณะคลอโรฟิลล์ธรรมชาติ

คลอโรฟิลล์โดยธรรมชาติจะถูกเส้นใยอาหารห่อหุ้มไว้ การจะได้คลอโรฟิลล์จากผักที่ทาน จึงต้องเคี้ยวนาน ให้คลอโรฟิลล์แตกออกจากเส้นใยอาหารที่หุ้มไว้ เพราะร่างกายไม่สามารถย่อยเส้นใยอาหารได้ คลอโรฟิลล์ธรรมชาติ จะมีลักษณะโครงสร้างละลายในน้ำมัน ดังนั้นการเลือก คลอโรฟิลล์จากธรรมชาติมาดื่ม ควรเลือกจากแหล่งที่มั่นใจว่าไม่มีสารเคมี เจือปน หรือเลือกจากแหล่งที่รับรองว่าเป็นออแกนิคเท่านั้น พืชที่นิยมนำมาสกัดเพื่อได้คลอโรฟิลล์ ได้แก่ต้นอ่อนข้าวสาลี(วีทกราส) ต้นอ่อนข้าวบาเลย์ เป็นต้น

ต้นอ่อนข้าวสาลี มีคลอโรฟิลล์ธรรมชาติสูงถึง 70%

ลักษณะคลอโรฟิลล์สังเคราะห์

คลอโรฟิลล์ ส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในท้องตลาดเป็นคลอโรฟิลล์สังเคราะห์ โดยคลอโรฟิลล์จะถูกเปลี่ยนโครงสร้าง จากละลายในน้ำมัน ให้ละลายน้ำได้ ด้วยการเติมเกลือโซเดียม และเนื่องจากต้องการให้สีของ คลอโรฟิลล์มีความเขียวคงตัว ไม่ออกเหลืองจึงเติมคอปเปอร์(ทองแดง)เข้าไป จึงมีชื่อเรียกคลอโรฟิลล์สังเคราะห์ นี้ว่า โซเดียม คอปเปอร์ คลอโรฟิลลิน พืชที่นำมาสกัดส่วนใหญ่ได้แก่ ใบหม่อน ใบอัลฟาฟ่า ผักโขม เป็นต้น

ปัจจุบันมีหลายประเทศห้ามใช้คลอโรฟิลลชนิดนี้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย เพราะไม่แน่ใจ ถึงผลข้างเคียงในระยะยาว แต่จะยังคงให้ใช้เพียงเป็นสีผสมอาหารเท่านั้น

ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์

อ้างอิงข้อมูลจาก https://medthai.com/คลอโรฟิลล์

- เชื่อว่าช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
- เชื่อว่ามีส่วนช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
- ช่วยลดเลือนรอยคล้ำรอบดวงตา
- ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย
- ช่วยลดอาการภูมิแพ้ โรคหอบหืด แพ้อากาศ
- ช่วยเพิ่มปริมาณของเม็ดเลือดแดงให้สมดุล
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยกำจัดสารพิษภายในร่างกาย
- มีส่วนช่วยในการบำบัดรักษาโรคต่าง ๆ
- มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
- มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะและไมเกรน
- ช่วยลดปัญหาการเกิดเส้นเลือดหัวใจตีบตันหรือเส้นเลือดขอด
- ช่วยลดปัญหากลิ่นตัวหรือกลิ่นที่เกิดจากอวัยวะภายในร่างกาย
- ใช้เป็นยาดับกลิ่นปาก (เห็นผลน้อยมาก)
- ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารและลำไส้
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างเป็นปกติ
- มีส่วนช่วยบรรเทาและรักษาโรคท้องผูก
- ช่วยบรรเทาอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคตับอักเสบและไตวาย
- มีส่วนช่วยฟื้นฟูการทำงานของตับ
- มีฤทธิ์ในการต้านการติดเชื้อต่าง ๆ (แต่มีประสิทธิภาพน้อยมาก ๆ)
- ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

งานวิจัยที่น่าสนใจ

งานวิจัยที่โด่งดังที่สุด ผลงานจาก ศาสตราจารย์ Hans Fischer อาจารย์ด้านเคมีการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยอินส์บรุค ผู้ได้รับรางวัลโนเบล ในการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของโครงสร้างคลอโรฟิลล์กับโมเลกุลของเลือด(ฮีม) มีลักษณะเหมือนกันต่างตรงที่โมเลกุลตรงกลาง คลอโรฟิลล์จะเป็นแมกนีเซียม ส่วนฮีมจะเป็นธาตุเหล็ก

อีกงานวิจัยจากสถาบันจอห์น ฮอบกิน ภาควิชาพิษวิทยา ในการศึกษาคลอโรฟิลล์กับการลดการแพร่เชื้อมะเร็งตับ ที่เกิดเชื้อราอัลฟาท็อกซิล ซึ่งพบมากในชุมชนประเทศจีน จากการบริโภคอาหารประเภทถั่ว ซึ่งได้ผลเป็นที่น่า พอใจมากว่าผู้ที่ทานคลอโรฟิลล์ จะลดอัตราการเป็นมะเร็งในตับ โดยพบว่าคลอโรฟิลล์มีฤทธิ์ ในการช่วยยับยั้ง การกระจายตัวของเซลล์มะเร็ง

ข้อมูลอ้างอิงจาก
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC64728/

สนใจสั่งซื้อสินค้าได้ที่:
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่:

บทความแนะนำ

Collagen Tripeptide (คอลลาเจน)

คอลลาเจนมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งกับผิวและไขข้อ หากร่างกายสูญเสียคอลลาเจนนอกจากจะทำให้ดูอา

รู้จักโคเอ็นไซม์คิวเท็น (Q10)

โคเอ็นไซม์คิวเท็น สารอาหารที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้น มีส่วนสำคัญมากกับหัวใจ และหลอดเลือด

Wheatgrass (วีทกราส)

ต้นอ่อนข้าวสาลี จากแหล่งออแกนิค

รู้จักแคลเซียมจากสาหร่ายทะเล

แคลเซียมจากสาหร่ายทะเล เป็นแหล่งแคลเซียมที่ปลอดภัย มาจากพืช 100% ย่อยง่าย ท้องไม่ผูก

บทความที่น่าสนใจ

📗 Collagen Tripeptide (คอลลาเจน)

📗 รู้จักโคเอ็นไซม์คิวเท็น (Q10)

📗 Wheatgrass (วีทกราส)

📗 รู้จักแคลเซียมจากสาหร่ายทะเล

📗 พรีไบโอติก คืออาหารของเชื้อจุลินทรีย์ดีในลำไส้

📗 ความต่างของคลอโรฟิลล์ธรรมชาติและคลอโรฟิลล์สังเคราะห์

📗 หน้าที่การทำงานของตับ (Liver)

📗 แครอทมีเบต้าแคโรทีน ช่วยดูแลดวงตา